วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ใต้สุดสยาม เมืองามชายแดน (กรกนก สี่พั่ว)


ใต้สุดสยาม เมืองงามชายแดน

เคยมีคนถามว่า เบตงเป็นเมืองยังไงนะ   เบตง ไม่น่ากลัวเหรอ อันตรายรึป่าว
หรือ บางที ยังมีคนเถียงอีกนะ ว่า นราธิวาส  เป็นเมืองใต้สุดสยาม ไม่ใช่ยะลา เพราะดูจากแผนที่ ที่จริงเคยดูแผนที่เหมือนกันค่ะ แล้วก็เห็นว่า มันค่อนข้างใกล้เคียงกันจริงๆ แต่จริงๆ แล้ว อ.เบตง จ.ยะลา เป็นเมืองใต้สุดสยามจริงๆ นะคะ ตามคำขวัญว่า ใต้สุดสยาม เมืองงามชายแดนนั่นเอง

 

อย่างที่บอก เบตงเป็นเมืองที่อยู่ใต้สุด จึงนับว่าค่อนข้างไกลทีเดียว การเดินทาง ก็เดินทางได้หลายทาง รถไฟ จาก กรุงเทพ ยะลา ประมาณ 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว และยังต้องเดินทางจาก อ.เมือง ไปยัง อ.เบตงอีก หลายชั่วโมงเลยล่ะ รถยนต์ อันนี้ง่ายหน่อย แต่ต้องมีคนขับ 2 คนนะคะ ไม่งั้น เหนื่อยมาก และต้องชำนาญจริงๆ เพราะทางค่อนข้างโหด - รถทัวร์ มีจาก กรุงเทพ เบตง เลยล่ะ 18 ชั่วโมง นั่งจนก้นแข็ง เครื่องบิน จาก กรุงเทพหาดใหญ่ จ.สงขลา และต้องนั่งรถตู้ ต่อไปยัง อ.เบตง ประมาณ 4 ชั่วโมง แต่ขอบอกว่า ทางจาก อ.เมืองยะลา ไปเบตงนั้น ต้องเจอทุกการเดินทาง และคนที่ไม่เคยไป (แม้จะไปแล้วก็เป็น) เมารถทุกคนค่ะ ทางจะคดเคี้ยวตลอด ถ้าจะพูดถึง เบตงฉันจะนึกถึง ทางที่คดเคี้ยวนั่น, ตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย, สวนยาง, สภาพอากาศ, ติ่มซำ, บ่อน้ำร้อน,บ้าน   เบตง ก็เหมือนเมืองอื่นๆ ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย แม้ว่าจะเป็นเมืองที่ไม่น่าจะมีนักท่องเที่ยวนัก และยังมีข่าวเกี่ยวกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีก คงน้อยนักที่จะมีคนสนใจจะมาเที่ยวที่นี่จริงๆ ถ้าฉันไม่ได้เป็นคนเบตง ก็คงไม่ได้มีโอกาสมาเที่ยวที่นี่ ไม่ได้รู้จักเมืองที่คิดว่าน่าจะอันตราย ขนาดให้ไปนราธิวาสหรือปัตตานี ฉันก็คงไม่ไป แต่จริงๆ แล้วมันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดหรอกค่ะ เบตงเป็นเมืองที่เงียบสงบ บ้านเรือนจะเป็นอาคารค่อนข้างเก่าแก่ เป็นเมืองเล็กๆ แบบว่า เดินทั่วเมืองได้ภายในวันเดียว แต่ไม่นับในสวนยางนะ กว้างกว่าเมืองอีก บางส่วนของเมืองจะเป็นเนินเขา เพราะเดิมทีก็เป็นภูเขาซะส่วนใหญ่ อาคารบ้านเรือน จะค่อนข้างเป็นระเบียบ ใจกลางเมืองจะมีหอนาฬิกาขนาดใหญ่(ตอนนี้สร้างใหม่แล้ว) และเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ก็มีการสร้างอุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ เป็นทางเดินรถ ตลาดจะมีตลาดสดที่เดียว เป็นอาคาร 2 ชั้น ชั้นล่างจะขายพวกผัก ผลไม้ ของกิน ชั้นบนจะขายพวกเนื้อ และของจิปาถะ มีพิพิธภัณฑ์ สนามกีฬาของเมือง สนามเด็กเล่น อยู่บนเนินของเมือง นอกเมืองไป จะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย อาทิเช่น บ่อน้ำร้อน สวนดอกไม้ อุโมงค์เบตง (ที่อดีตขบวนการโจรคอมมิวนิสต์มลายา (จคม.) สร้างขึ้นเป็นฐานทัพลับ ได้นำมาฉายในภาพยนตร์เรื่อง โอเคเบตงด้วย หมู่บ้านซาไก และ  สภาพอากาศ ก็ค่อนข้างเย็น ถ้ายิ่งฤดูหนาว จะหนาวมากเลย เหมือนภาคเหนือค่ะ ขนาดหน้าร้อนที่เพิ่งไปมา ก็อากาศไม่ร้อนเลยซักนิด เย็นกว่าภาคเหนือซะอีกนะ สิ่งที่ฉันชอบมากที่สุด คือ ในทุกเช้า ของวัน ทุกๆ ครอบครัวจะมารวมกันที่ร้านติ่มซำเจ้าประจำ มานั่งกิน นั่งคุยกับเพื่อนๆ ลูกหลาน หรือบางบ้าน จะซื้อกลับไปกินก็มี เป็นภาพที่อบอุ่นมากทีเดียว มันเหมือนกับ เป็นการมาพบปะพูดคุยกันสัพเพเหระ เหมือนเป็นวัฒนธรรมของเมืองไปซะแล้วล่ะ หัวค่ำ จะมานั่งจิบน้ำชา ที่ร้านน้ำชา ใกล้บ้าน ทั้งวัยรุ่น หรือผู้ใหญ่ ก็จะขี่มอเตอร์ไซด์ มานั่งพูดคุยกัน เป็นกลุ่มๆ พ่อก็มีกลุ่มของพ่อ แม่ก็มีกลุ่มของแม่ ส่วนลูกๆ ก็ไปกับเพื่อนๆ ไม่ดึกนักก็ขี่รถกลับบ้าน คนจะชอบไปนั่งกันแถวๆ หอนาฬิกา สัญลักษณ์อีกอย่างของเมืองเบตงก็คือ นกตรงบริเวณหอนาฬิกา คนที่นี่ถือว่า ใครที่มาเบตงแล้วไม่โดนขี้นกตกใส่ แสดงว่ายังมาไม่ถึงเบตงนะคะ  อาชีพหลักของคนที่นี่ ก็แน่นอนอยู่แล้ว ก็คือ การทำสวนยาง สวนผลไม้ ปกติก็เข้าสวนกัน

ดังนั้น เมืองเบตง ก็เป็นเมืองที่น่าอยู่อีกเมืองหนึ่งเช่นกัน มีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง มีอาหารอร่อยมากมายหลายรสชาติ  และมีความหลากหลายของธรรมชาติ มีความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้และต้นไม้ มีอากาศที่ดี รับรองว่าถ้าได้ไปแล้ว คนที่ชอบธรรมชาติจริงๆ จะติดใจ สามารถติดตามลายละเอียดของเบตงได้ที่ https://www.facebook.com/groups/betongbanround/?fref=ts

 

1 ความคิดเห็น:

  1. ครั้งที่ 1 คะแนนที่ได้ 18 คะแนน
    คำชม
    - นักเรียนส่งตามเวลาดี
    - เรื่องและคำนำน่าสนใจ
    ข้อเสนอแนะ
    - เนื้อเรื่องควรมีสัมพันธภาพให้มากกว่านี้
    - ส่วนการสรุปน่าจะมีเอกภาพชัดเจนกะทัดรัด
    - การจัดวางภาพและวิดีโอยังไม่เหมาะสมเท่าที่ควรจึงทำให้รูปแบบการเขียนไม่ควรน่าสนใจ

    ตอบลบ